วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

ข้อคิดสำหรับการออม

เรื่องของการออมที่จะออมอย่างไรนั้น มีหลายวิธีที่เราสามารถเลือกใช้ในการออมเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝากประจำ และไม่ประจำกับทางธนาคาร หรือเลือกที่จะออมเงินไว้กับตัวเราเองก็ได้ แต่วิธีนี้เราต้องมีระเบียบวินัยที่สูงในการออม เพราะเงินอยู่ใกล้ตัวสามารถนำออกมาใช้จ่ายได้ตลอดเวลา

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

การออมเงินมีข้อดีอย่างไร

  1. สร้างความเป็นอยู่ฐานะ ในอนาคตให้ดีขึ้น
  2. มีเงินใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน  หรือในยามจำเป็นเจ็บไข้ได้ป่วย
  3. สร้างอนาคตความเป็นอยู่ที่มั่นคง
  4. หลุดพ้นจากการเป็นหนี้
  5. สามารถมีเงินลงทุนได้ในอนาคต

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

หลักการออมเงินง่ายๆๆๆๆๆๆๆ

หลักในการออมเงินมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ

วิธีที่ 1 ออมเงินในลักษณะถูกบังคับ อาทิเช่น การฝากประจำโดยให้หักเงินจากบัญชีเงินเดือน สมัครกองทุนเลี้ยงชีพ หรือซื้อหุ้นของออมทรัพย์ ข้อนี้ให้คุณติดต่อสอบถามกับฝ่ายบุคคลได้เลย
ข้อเสียคือ เงินที่ฝากไม่สามารถเบิกมาใช้จ่ายตามใจเราได้
วิธีที่ 2 ออมเงินด้วยความเติมใจ อาทิเช่น เก็บเงินที่เหลือในแต่ละวันหยอดกระปุก นำเงินที่มีอยู่ไปฝากแบบไม่ประจำ
ข้อเสียคือ มีระเบียนวินัยในการออมน้อย เพราะสามารถนำเงินออกมาใช้จ่ายเมื่อใดก็ได้ ตามความต้องการ

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

วิธีการและทางเลือกของการออมทรัพย์

วิธีการและทางเลือกของการออมทรัพย์ มีวิธีการปฏิบัติดังนี้.
1. การจัดสรรเงินด้วยตนเอง
เป็นการวางแผนการเงินที่ได้มาควรจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินออม โดยไม่ต้องคิดตลอดเวลาว่าเงินที่ออมมีไว้สำหรับความจำเป็นในอนาคต และจะต้องไม่นำเงินออมที่เก็บไว้ไปใช้จ่ายในสิ่งที่ฟุ่มเฟือย และไม่ได้ประโยชน์

2. การวางแผนการใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวัน
คนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงเรื่องการออมมักจะเห้นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ โดยให้เหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่มักสรุปได้ว่า จะออมได้อย่างไร แค่ใช้จ่ายก็ไม่มีเงินเพียงพอแล้ว
ดังนั้น ในการเริ่มต้นในการออม จึงมีเครื่องมือที่สำคัญ 3 ประการที่จำเป็นต้องมีการพิจารณา ได้แก่
2.1 ทัศนคติ ผู้ที่คิดเริ่มต้นที่จะเก็บเงินออม ต้องมีความคิดที่ตระหนักถึงคุณค่าในตนเอง เห็นความสำคัญของตนเอง มีความเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถทำได้
2.2 อุปนิสัย ต้องเป็นผู้ที่มีวินัยในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเก็บให้ได้ครั้งละมากๆ อาจเริ่มเก็บเพียงทีละเล็กทีละน้อย แต่ต้องมีความสม่ำเสมอ
2.3 จุดมุ่งหมาย หรือเป้าหมายในการออม ต้องมีการกำหนดเป้าหมายว่า ออมไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อซื้อหนังสือ เพื่อเป็นทุนการศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

3. การออมโดยการฝากเงินกับธนาคาร
เป็นการออมเงินที่คนส่วนใหญ่รู้จัก และคุ้นเคยที่สุด มีความสะดวกและมีความมั่นคง แต่ผลตอบแทนที่ได้ (ดอกเบี้ย) จากการฝากเงินค่อนข้างต่ำ เนื่องมาจากระบบการฝากเงินมีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินจากการฝากเงินจึงอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก คนส่วนใหญ่จึงคุ้นเคยกับการจัดสรรเงินไว้ในระบบเงินฝากเพื่อสามารถเบิกถอนมาใช้ได้สะดวกในเวลาที่ต้องการ
เคล็ดลับในการออม
1. เริ่มต้นออมแต่เนิ่นๆ เวลาออมยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้ดอกเบี้ย และเงินต้นมีโอกาสสะะสมมากขึ้นเท่านั้น
2. จัดสรรเงินสำหรับการออม จัดสรรเงินที่จะเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของการจ่ายประจำวันที่มีความสำคัญเหมือนกับรายจ่ายอื่นๆ
3. ออมอย่างสม่ำเสมอ การออมเงินอย่างมีวินัยจะทำให้สามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การทำประกันชีวิต
การทำประกันชีวิต เป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างเสริมนิสัยการออม ด้วยการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งมาชำระเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันชีวิตตามจำนวนและระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันภัยที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อครบกำหนดสัญญา บริษัทประกันชีวิต ก็จะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตตามจำนวน และตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อผู้เอาประกันชีวิตยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะเป็นการออมอีกลักษณะหนึ่งเพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต นอกจากนั้น การทำประกันชีวิตยังเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคง และความอุ่นใจให้แก่ตนเองและครอบครัว ในกรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรบริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์หรือทายาทตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษา หรือเก็บไว้ใช้จ่ายเพื่อความจำเป็นต่างๆ นอกจากนี้การทำประกันชีวิตสามารถช่วยให้ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องนำเงินที่ตนเองสะสมไว้มาใช้จ่ายในยามเดือดร้อน เช่น กรณีที่เจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ถ้าผู้เอาประกันภัยซื้อความคุ้มครองการประกันสุขภาพไว้ด้วย บริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในสัญญา โดยไม่ต้องนำเงินที่ตนเองสะสมไว้มาจ่ายเป็นค่ารักษา เป็นต้น